
Top 10 แข้งพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มตกแต่กลับมาผงาดอีกครั้ง
Home Top 10 แข้งพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มตกแต่กลับมาผงาดอีกครั้ง Facebook
ตลอดระยะเวลากว่าสามทศวรรษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษได้กลายเป็นลีกที่แฟนบอลทั่วโลกร่วมจับตามองอย่างไม่วางตา ด้วยความเข้มข้นของการแข่งขันและคุณภาพของนักเตะระดับแนวหน้า แต่สิ่งที่ทำให้ลีกนี้แตกต่างจากลีกอื่นอย่างชัดเจนคือ สถิติสุดโหด ในทุกฤดูกาล บางสถิติเกิดจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ บางสถิติเกิดขึ้นจากความผิดพลาด หรือแม้กระทั่งดราม่าในช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของเกมที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ความมหัศจรรย์ของพรีเมียร์ลีกไม่เพียงแค่เกิดจากการลุ้นแชมป์ แต่รวมถึงการแย่งพื้นที่ยุโรป การหนีตกชั้น และศึกดาร์บี้ที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมอย่างแท้จริง แต่ละสถิติที่ถูกจารึกไว้นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขในหน้าหนังสือ หากแต่กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าเกมฟุตบอลสามารถเล่าขานได้อย่างเข้มข้นไม่แพ้วรรณกรรมคลาสสิก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา สามารถทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 106 ประตูในฤดูกาล 2017/18 ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เหนือชั้นกว่าทุกทีมในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของอังกฤษ การบุกแบบไม่ลดจังหวะ เล่นเกมรุกที่ต่อเนื่อง และความหลากหลายในวิธีการเข้าทำทำให้แมนฯ ซิตี้ชุดนั้นกลายเป็นทีมที่หลายคนยังพูดถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ความน่าทึ่งไม่ได้อยู่แค่จำนวนประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระจายการทำประตูจากผู้เล่นหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นจากแดนกลาง ปีก หรือแม้แต่กองหลังที่เติมเกมขึ้นมายิง เรียกได้ว่าไม่สามารถเดาได้เลยว่าใครจะเป็นคนจบสกอร์ในการเล่นแต่ละนัด ทำให้เกมของซิตี้ในฤดูกาลนั้นมีความยืดหยุ่นและหลากหลายมากกว่าเดิม และสถิตินี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันว่าทีมของเป๊ปมีประสิทธิภาพแค่ไหน
สถิติที่ยังไม่มีใครลบล้างได้มานานหลายปี คือการทำแฮตทริกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของ ซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงสามประตูให้กับเซาแธมป์ตันในเกมพบแอสตัน วิลล่า เมื่อปี 2015 ภายในเวลาเพียง 2 นาที 56 วินาที จังหวะการยิงทั้งสามลูกแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์ ความเร็วในการเคลื่อนที่ และสัญชาตญาณในการหาพื้นที่ว่าง สถิตินี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชื่อของมาเน่เริ่มถูกจับตามองในระดับกว้างขวาง และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงหลังจากย้ายไปลิเวอร์พูล ความพิเศษของแฮตทริกชุดนี้ไม่ได้อยู่แค่ตัวเลขของเวลาเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของเกมฟุตบอล ที่บางครั้งแม้เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในสนามได้อย่างสิ้นเชิง
ฤดูกาล 2017/18 ถือเป็นปีที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้สร้างสถิติอันน่าทึ่งด้วยการเก็บได้ถึง 100 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนรวมสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลาในปีนั้นแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอ ความแข็งแกร่ง และสมาธิที่ไม่เคยลดตลอด 38 นัด การคว้าชัยชนะ 32 นัด เสมอ 4 และแพ้เพียงครั้งเดียว สะท้อนถึงทีมที่แทบไม่มีข้อบกพร่อง และแม้แต่ในวันที่ฟอร์มไม่ดี ซิตี้ก็ยังสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า นี่ไม่ใช่เพียงการลุ้นแชมป์ธรรมดา แต่เป็นการเดินหน้าไล่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่หลายทีมต้องใช้เวลานานกว่าจะเข้าใกล้ระดับนั้นได้
อลัน เชียเรอร์ คือชื่อที่ยังคงอยู่บนจุดสูงสุดของผู้ทำประตูรวมในพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 260 ประตู ซึ่งมากพอจะทำให้เขายังคงรักษาสถิตินี้มาได้ถึงปัจจุบัน แม้จะมีนักเตะรุ่นหลังที่พยายามไล่ตามแต่ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้ เชียเรอร์ทำประตูจากทั้งแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส และนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยมีจุดเด่นคือความเฉียบคม ความแข็งแกร่ง และการอ่านเกมที่เฉียบไว ไม่ว่าเกมจะตึงเครียดแค่ไหน เชียเรอร์ยังสามารถหาทางส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายได้เสมอ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นกองหน้าระดับตำนานที่ไม่มีใครลืม
อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ในฤดูกาล 2003/04 สร้างสถิติที่ไม่มีใครในพรีเมียร์ลีกทำได้อีกเลยนั่นคือ “ไร้พ่าย” ตลอดทั้ง 38 นัด พวกเขาจบฤดูกาลด้วยชัยชนะ 26 นัด เสมอ 12 และไม่มีความพ่ายแพ้แม้แต่เกมเดียว ทีมชุดนี้ที่ถูกขนานนามว่า “The Invincibles” มีทั้งความแข็งแกร่งในเกมรับ การเชื่อมเกมในแดนกลาง และแนวรุกที่มีความหลากหลายอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น เธียร์รี อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ หรือ โรแบร์ ปิแรส ต่างมีบทบาทสำคัญในการพาทีมเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของลีกอังกฤษ และสถิตินี้กลายเป็นเป้าหมายที่หลายทีมอยากลอกแบบแต่ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ
ริชาร์ด ดันน์ อดีตกองหลังทีมชาติไอร์แลนด์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเจ้าของสถิติใบแดงมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยโดนไล่ออกถึง 8 ครั้ง การเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กในยุคที่เกมรับต้องดุดันและตัดเกมอย่างเด็ดขาด ทำให้โอกาสโดนใบแดงมีสูง แต่การโดนไล่ออกถึง 8 ครั้งไม่ใช่เรื่องเล็ก และกลายเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาตลอดอาชีพ ความพยายามในการหยุดกองหน้าคู่แข่งอาจเป็นเหตุผลหลัก แต่เมื่อสถิตินี้ยาวนานจนไม่มีใครมาแย่งได้ ก็เป็นเหมือนบทเรียนให้หลายคนรู้ว่าเกมรับก็มีเส้นบางๆ ระหว่างความเด็ดขาดกับความรุนแรงที่ไม่จำเป็น
แฟรงค์ แลมพาร์ด คือชื่อที่หลายคนจดจำในฐานะมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก และหนึ่งในสถิติที่สะท้อนความทุ่มเทของเขาคือการลงสนามติดต่อกันถึง 164 นัดแบบไม่พลาดเลยสักเกมให้กับเชลซีระหว่างปี 2001 ถึง 2005 ความแข็งแรงทางร่างกาย ความมีวินัยในตัวเอง และการรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงตลอดระยะเวลาหลายปี ทำให้แลมพาร์ดเป็นหัวใจหลักของทีมในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเกมใหญ่ เกมเล็ก หรือแม้แต่ในช่วงที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เขายังสามารถฟื้นตัวและลงเล่นได้ทันทุกนัด สถิตินี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความฟิตของนักกีฬาในระดับอาชีพ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่หาได้ยากในวงการฟุตบอลระดับสูง
หนึ่งในเกมที่แฟนบอลพูดถึงมากที่สุดคือแมตช์ระหว่างพอร์ทสมัธกับเรดดิ้งในปี 2007 ซึ่งจบลงด้วยสกอร์สุดเหลือเชื่อ 7-4 รวมทั้งสิ้น 11 ประตูในเกมเดียว ถือเป็นสถิติการยิงประตูรวมมากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีก การยิงกันแบบไม่มีพักในเกมนั้นทำให้ทั้งสองทีมแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและความกล้าเสี่ยงเพื่อชัยชนะ โดยไม่เน้นความระมัดระวังมากนัก ทั้งกองหน้า กองกลาง และแม้แต่เกมรับต่างมีส่วนร่วมในการสร้างเกมที่ตื่นเต้นและเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ลีกนี้ เกมดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้แฟนบอลประทับใจในความมันแบบนอกตำรา แต่ยังกลายเป็นบทพิสูจน์ว่าเกมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกไม่มีสูตรตายตัว และสิ่งที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ปีเตอร์ เคราช์ คือเจ้าของสถิตินี้ ด้วยความสูงถึง 201 เซนติเมตร ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศและสามารถโหม่งทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากถึง 53 ลูก สถิตินี้ไม่ได้เป็นแค่ผลจากร่างกายที่สูงใหญ่เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการจับจังหวะ การหาพื้นที่ และการอ่านเกมที่แม่นยำ เคราช์ใช้จุดแข็งของตัวเองอย่างเต็มที่และกลายเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่สร้างปัญหาให้แนวรับของทีมคู่แข่งอยู่เสมอ การโหม่งไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และการทำประตูได้ต่อเนื่องจากลูกโหม่งยิ่งเป็นการยืนยันว่าเคราช์มีทักษะเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือนในพรีเมียร์ลีกยุคหนึ่ง
เชลซีของโชเซ่ มูรินโญ่ในฤดูกาล 2004/05 คือทีมที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล ด้วยจำนวน 25 นัด โดยมีปีเตอร์ เช็กเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง และแผงหลังที่แข็งแกร่งอย่าง จอห์น เทอร์รี่ และริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เป็นหัวใจสำคัญ การป้องกันที่เป็นระบบ ความเข้าใจระหว่างผู้เล่น และการวางแผนเกมรับอย่างมีวินัยทำให้เชลซีแทบไม่เปิดโอกาสให้ทีมใดได้มีพื้นที่เข้าไปลุ้นประตู ความเหนียวแน่นแบบนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยในลีกที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรุกดุเดือด การควบคุมพื้นที่แดนหลังได้ตลอดฤดูกาล และรักษาความมั่นใจในการเล่นแบบไม่หลุดเลย คือเครื่องพิสูจน์ถึงทีมที่แข็งแกร่งทั้งในแง่แท็กติกและจิตใจ
สถิติต่างๆ ที่กล่าวมานี้คือหลักฐานสำคัญว่าพรีเมียร์ลีกไม่ได้เป็นเพียงแค่ลีกฟุตบอลที่มีคนติดตามมากที่สุด แต่ยังเป็นเวทีที่มีการแข่งขันสูง ความไม่แน่นอนที่แทรกอยู่ในทุกจังหวะ และความสามารถที่แท้จริงของนักเตะจากหลากหลายสโมสรทำให้ลีกนี้มีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างจากที่อื่น สถิติในแต่ละด้านไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยหรู แต่เป็นผลลัพธ์ของความมุ่งมั่น การฝึกฝน และความกล้าที่จะทำสิ่งยากให้เป็นจริง ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันทำให้พรีเมียร์ลีกเป็นมากกว่าลีกฟุตบอลธรรมดา มันคือเวทีที่ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ และไม่มีอะไรเป็นไปตามสูตรสำเร็จเลยแม้แต่นิดเดียว
Home Top 10 แข้งพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มตกแต่กลับมาผงาดอีกครั้ง Facebook
Home Top 10 ทีมพรีเมียร์ลีกที่ทำสถิติชนะติดต่อกันยาวนานที่สุด Facebook
Home 10 นักเตะพรีเมียร์ลีกที่คว้าแข้งทองคำมากที่สุด Facebook Twitter
Home 10 สถิติสุดโหดที่ทำให้พรีเมียร์ลีกน่าติดตามที่สุด Facebook Twitter
Home รวมบทสัมภาษณ์นักเตะพรีเมียร์ลีกที่เข้มข้นที่สุด 10 อันดับ Facebook
Home 10 แข้งพรีเมียร์ลีกที่ย้ายทีมแล้วผลงานพุ่งแรงเกินคาด Facebook Twitter
Home 10 แข้งพรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิกสุดคมที่แฟนบอลต้องจดจำ Facebook Twitter
Home 10 นักเตะผู้ทุบสถิติโลกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025 Facebook
Home Top 10 สถิติพรีเมียร์ลีกที่น่าสนใจและน่าติดตาม Facebook
Home 10 นักเตะต่างชาติที่สร้างชื่อเสียงพรีเมียร์ลีก Facebook Twitter
Home Top 10 ลูกยิงสุดสวยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด Facebook
Home 10 นักเตะที่ทำแอสซิสต์สูงสุดพรีเมียร์ลีก Facebook Twitter
Home Top 10 ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกที่ประสบความสำเร็จสูงสุด Facebook
Home 10 แมตช์พรีเมียร์ลีกสุดมันส์ที่คุณไม่ควรพลาด Facebook Twitter
Home Top 10 กองหลังพรีเมียร์ลีกที่แข็งแกร่งที่สุด Facebook
Home จัดอันดับ 10 นักเตะดาวรุ่งพรีเมียร์ลีกที่น่าจับตามอง Facebook
Home 10 สโมสรพรีเมียร์ลีกที่คว้าแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ Facebook Twitter
Home Top 10 ดาวยิงพรีเมียร์ลีกสูงสุด ทำสถิติยิงไม่ธรรมดา