• Home
  • บทความ
  • 10 แข้งพรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิกสุดคมที่แฟนบอลต้องจดจำ

10 แข้งพรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิกสุดคมที่แฟนบอลต้องจดจำ

10 แข้งพรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิกสุดคมที่แฟนบอลต้องจดจำ

พรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิก

การยิงฟรีคิกในพรีเมียร์ลีกไม่ใช่แค่เรื่องของพลัง แต่เป็นศิลปะที่ต้องอาศัยความแม่นยำ จังหวะ และความมั่นใจที่แท้จริง นักเตะบางรายมีชื่อเสียงจากการยิงไกล บางคนใช้เทคนิคโค้งเบียดเสาแบบสุดสายตา สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงสร้างประตูสำคัญ แต่ยังกลายเป็นจังหวะที่ถูกพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีกในหมู่แฟนบอลทั่วโลก รายชื่อ 10 แข้ง พรีเมียร์ลีกยิงฟรีคิก ที่เราคัดมาไม่ใช่เพียงเพราะจำนวนประตูจากลูกนิ่ง แต่เป็นเพราะทุกครั้งที่พวกเขาก้าวเท้าเข้าไปยืนหลังลูกบอล ความเงียบงันของสนามจะถูกแทนที่ด้วยความคาดหวังแบบที่แม้แต่มือกาวฝีมือดีที่สุดก็ยังต้องลุ้น นักเตะเหล่านี้มีทั้งที่ยังค้าแข้งอยู่ และบางคนก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่ผลงานของพวกเขายังคงถูกพูดถึงจากลูกยิงที่เฉียบขาดและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับคอบอลที่หลงใหลในลูกนิ่ง รายชื่อนี้จะพาย้อนไปสู่โมเมนต์ที่คุณอาจเคยลุกขึ้นเฮจากหน้าจอหรือในสนามโดยไม่รู้ตัว เตรียมพบกับนักเตะที่ทำให้คำว่า “ฟรีคิก” กลายเป็นอาวุธที่คู่แข่งไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป

หัวข้อข่าว

เดวิด เบ็คแฮม – เจ้าพ่อฟรีคิกยุคทองของแมนยู

เมื่อพูดถึงฟรีคิกในพรีเมียร์ลีก ชื่อของ เดวิด เบ็คแฮม มักถูกนึกถึงเป็นอันดับแรก เขาไม่ใช่คนที่ยิงแรงที่สุด แต่ความแม่นยำในการวางบอลไปยังมุมที่ผู้รักษาประตูเอื้อมไม่ถึงคือจุดเด่นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลูกปั่นข้ามกำแพงหรือการวางให้โค้งเสียบสามเหลี่ยม เบ็คแฮมสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็นฝันร้ายของแนวรับคู่แข่ง ช่วงที่เขาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1992–2003 เขาทำประตูจากฟรีคิกได้หลายครั้งในเกมสำคัญ รวมถึงแมตช์ที่เปลี่ยนผลการแข่งขันไปโดยสิ้นเชิง เสียงบอลกระทบตาข่ายหลังจากโค้งผ่านมือผู้รักษาประตูเป็นภาพที่แฟนผีแดงยังจดจำได้ดี ทุกครั้งที่ทีมได้ฟรีคิกนอกกรอบ ผู้ชมแทบไม่ต้องลุ้นว่าใครจะยิง เพราะทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ชายผู้ใส่เสื้อหมายเลข 7 คนนี้อย่างแน่นอน ความมั่นใจในจังหวะก้าวเท้า ท่าทางที่สงบเสมอ และฟอร์มที่คงเส้นคงวาคือสิ่งที่ทำให้เบ็คแฮมถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงฟรีคิกได้ดีที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก

เจมส์ วอร์ด-พราวส์ – มิดฟิลด์นักปั่นลูกนิ่งแห่งเซาแธมป์ตัน

หากพูดถึงนักเตะที่มีเท้าขวาอันแม่นยำที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคหลัง ชื่อของ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ จะต้องอยู่ในบทสนทนาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่ใช่นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ตามหน้าสื่อ แต่มาตรฐานของการยิงฟรีคิกของเขานั้นสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยของลีกอย่างเห็นได้ชัด ความสามารถในการวางบอลให้พุ่งผ่านกำแพงในระยะสั้นหรือโค้งเข้าเสาสองในระยะไกลของวอร์ด-พราวส์ นั้นแม่นยำราวกับใช้ไม้บรรทัดลากเส้น ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เขาคือผู้เล่นที่ยิงประตูจากฟรีคิกได้มากที่สุดในลีก แซงหน้านักเตะชื่อดังหลายคน และมักเปลี่ยนเกมได้จากลูกตั้งเตะที่ดูเหมือนไม่อันตรายในสายตาคนอื่น การยิงของเขามักใช้เทคนิคปั่นโค้งข้ามกำแพงหรือปัดใต้ลูกให้บอลย้อยลงอย่างแม่นยำ ทำให้ผู้รักษาประตูต้องล้มตัวเร็วและหวังให้คานช่วยไว้แทน การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและความเยือกเย็นในจังหวะยิงคือสิ่งที่ผลักดันให้วอร์ด-พราวส์ เป็นเหมือนนักเชี่ยวชาญด้านฟรีคิกโดยเฉพาะ เขาไม่ได้ยิงแรงเท่าโรนัลโด้ หรือฉีกแนวเหมือนจูนินโญ่ แต่สิ่งที่เขาทำคือการยืนหนึ่งเรื่องความสม่ำเสมอและแม่นยำแบบมืออาชีพที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งในทุกครั้งที่ทีมได้ลูกนิ่งใกล้กรอบเขตโทษ

เธียร์รี อองรี – ความเฉียบคมจากลูกนิ่งที่คู่แข่งไม่กล้าหายใจ

ในยุคที่อาร์เซน่อลครองความยิ่งใหญ่ เธียร์รี อองรี คือนักเตะที่เปลี่ยนทุกจังหวะเกมให้กลายเป็นโอกาส และฟรีคิกก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือเด็ดของเขาเช่นกัน แม้หลายคนจะจดจำอองรีในฐานะกองหน้าที่พาบอลลากเลื้อยจากริมเส้นเข้าไปยิง แต่ในหลายวาระ เขายังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการกับลูกนิ่งได้อย่างร้ายกาจ รูปแบบการยิงของอองรีมักไม่ได้หวือหวาเหมือนคนอื่น แต่มีทั้งความแม่น ความเร็ว และทิศทางที่อ่านยากเป็นจุดแข็ง เขามักเลือกวางบอลเฉียดกำแพงไปยังมุมล่างหรือยิงต่ำใต้กำแพงในจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งแนวลอยสูง การตัดสินใจเช่นนี้บอกถึงความเข้าใจเกมและความกล้าในการเลือกมุมยิงที่ไม่คาดคิด ฟรีคิกของอองรีหลายลูกในพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นในเกมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกับเชลซีหรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมีส่วนช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์ได้ในช่วงเวลาคับขัน ความนิ่งของเขายามยืนหน้าบอลและความมั่นใจในทุกการวางเท้าทำให้ทุกประตูจากลูกนิ่งของเขากลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟนอาร์เซน่อลยังคงพูดถึงจนถึงทุกวันนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – พลังยิงทะลุกำแพงในแบบฉบับเฉพาะตัว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มาพร้อมภาพจำเรื่องฟรีคิกจากความแรงและวิธีการยิงที่เป็นเอกลักษณ์ การยืนในท่าทางเฉพาะ ยืดหลัง ผายไหล่ แล้ววิ่งเข้าใส่ลูกบอลด้วยเท้าหลังทำให้เกิดการหมุนที่รุนแรงแบบ “knuckle ball” ซึ่งเป็นลูกยิงไร้การหมุนที่พุ่งแบบคาดเดาไม่ได้ แน่นอนว่าเขาอาจไม่ใช่นักเตะที่ยิงเข้าได้ทุกครั้งที่ยืนอยู่หลังบอล แต่เมื่อพูดถึงความอันตราย โรนัลโด้คือหนึ่งในผู้เล่นที่ผู้รักษาประตูต้องเกร็งทันทีที่เขาได้จังหวะยิงนอกกรอบ ลูกยิงฟรีคิกของเขามีทั้งแบบพุ่งเสียบเสาแบบไม่มีทางเซฟ และแบบกระดอนพื้นหลอกผู้รักษาประตูให้เสียจังหวะ สิ่งที่ทำให้โรนัลโด้โดดเด่นไม่ใช่แค่ความแรง แต่คือความมั่นใจในทุกจังหวะที่เขายืนอยู่หลังบอล ระหว่างที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขายิงฟรีคิกเข้าไปหลายลูกในช่วงเวลาสำคัญ โดยเฉพาะเกมบิ๊กแมตช์ที่มักถูกใช้เป็นจุดเปลี่ยนทางจิตวิทยา โรนัลโด้คือนักเตะที่ทำให้คำว่า “ยืนหลังลูกบอลแล้วโลกหยุด” กลายเป็นจริงในสนามฟุตบอล

ยาย่า ตูเร่ – พลังเท้าขวาอันตรายจากแดนกลางเรือใบสีฟ้า

แม้จะไม่ได้ถูกพูดถึงในวงการฟรีคิกบ่อยเท่าชื่ออื่น ๆ แต่ ยาย่า ตูเร่ คือหนึ่งในกองกลางที่สามารถยิงลูกนิ่งได้หนักหน่วงและแม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ ช่วงที่เขาค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตูเร่เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่ทำได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่คุมเกมกลางสนาม ลากบอลขึ้นหน้า ไปจนถึงสังหารฟรีคิกในระยะอันตราย จุดแข็งของเขาคือการยิงด้วยเท้าขวาแบบพุ่งตรงที่เต็มไปด้วยพลังและทิศทางที่แม่นยำ ด้วยขนาดร่างกายที่ใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ การส่งแรงจากเท้าสู่ลูกบอลจึงเป็นเหมือนแรงกระแทกที่ไม่มีใครอยากยืนขวาง ตูเร่ยิงฟรีคิกเข้าไปหลายลูกในฤดูกาล 2013–14 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาอยู่ในฟอร์มพีกที่สุด หนึ่งในลูกที่ยังคงอยู่ในความทรงจำแฟนบอลคือประตูใส่นิวคาสเซิลที่เขาซัดข้ามกำแพงแบบเฉียบขาด ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจในทุกการยิง ท่าทางเรียบง่ายแต่ทรงพลังของเขาคือสิ่งที่ทำให้ตูเร่เป็นเหมือนเงาเงียบที่ยามได้ลูกนิ่งแล้ว กลับอันตรายยิ่งกว่ากองหน้าหลายคนที่ยืนอยู่ในสนามเสียอีก

ซีเนดีน ซีดาน – ลูกฟรีคิกที่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิกและชั้นเชิง

แม้จะค้าแข้งกับเรอัล มาดริดเป็นหลักในช่วงพีก แต่ ซีเนดีน ซีดาน ก็มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการยิงฟรีคิกเมื่อเล่นในอังกฤษ แม้จะไม่ได้เป็นคนรับหน้าที่ยิงลูกนิ่งหลัก ๆ ตลอดอาชีพ แต่ทุกครั้งที่เขาได้ยิง ลูกบอลจะพุ่งออกจากเท้าอย่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง ความพิเศษของซีดานอยู่ที่การอ่านเกมและการวางตำแหน่งในการยิง ไม่ว่าจะเป็นการปั่นข้ามกำแพงให้โค้งเสียบเสา หรือการยิงเรียดไปยังมุมล่างสุด ลูกยิงของเขาไม่จำเป็นต้องแรงแต่ได้ผลทุกครั้ง การเคลื่อนไหวก่อนยิงก็เต็มไปด้วยความนุ่มนวลราวกับการเต้นรำในสนาม การเล่นของเขาแฝงไว้ด้วยศิลปะและความคิดสร้างสรรค์จนยากจะลอกเลียน ทุกครั้งที่ซีดานยืนอยู่หลังลูกบอลจะเกิดความเงียบขึ้นโดยอัตโนมัติจากความคาดหวังของแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีม แม้จะไม่ได้มีสถิติมากมายในพรีเมียร์ลีก แต่ความคลาสสิกในการเล่นลูกนิ่งของเขายังคงเป็นภาพจำของแฟนบอลที่ชื่นชอบความงามของฟุตบอลแบบบริสุทธิ์

แฟรงค์ แลมพาร์ด – มิดฟิลด์ตัวทำประตูที่ไว้ใจได้จากลูกตั้งเตะ

แฟรงค์ แลมพาร์ด ไม่ได้เป็นนักเตะประเภทปั่นโค้งเหนือกำแพงเหมือนเบ็คแฮมหรือวอร์ด-พราวส์ แต่เขาใช้ความแม่นยำและพลังการยิงที่มั่นคงในการสังหารลูกฟรีคิก หลายครั้งที่เชลซีได้ฟรีคิกหน้ากรอบ มันไม่จำเป็นต้องดูหวือหวา เพราะแลมพาร์ดจะยืนอยู่หลังลูกด้วยความมั่นใจ วางแผนไว้แล้วว่าจะยิงไปยังมุมใด และมักทำได้ตามที่ตั้งใจ กองกลางรายนี้ใช้เท้าขวาเป็นอาวุธหลักในการยิงบอลทะลุกำแพงหรือปั่นโค้งในระดับต่ำเพื่อหลอกผู้รักษาประตู การยิงของเขาดูเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงจนบางครั้งกองหลังยังยืนงงว่าบอลผ่านเข้าไปได้อย่างไร ตลอดช่วงเวลาที่เขาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเชลซี เขายิงฟรีคิกเข้าไปหลายลูกโดยเฉพาะในเกมที่ทีมต้องการประตูเพื่อปลดล็อกสถานการณ์ ลูกยิงของเขามักไปในมุมที่ผู้รักษาประตูพุ่งไม่ถึง และบอลก็พุ่งตรงเสียบมุมอย่างแม่นยำ การเป็นกองกลางตัวทำประตูที่พึ่งพาได้จากลูกนิ่งคือคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้แลมพาร์ดถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก

เลอันโดร ตรอสซาร์ – นักเตะจอมเทคนิคที่ลูกนิ่งกลายเป็นอาวุธลับ

แม้จะไม่ได้อยู่ในสปอร์ตไลต์เท่าแข้งรุ่นพี่ชื่อดัง แต่ เลอันโดร ตรอสซาร์ คือนักเตะที่มีเทคนิคการยิงฟรีคิกน่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตั้งแต่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับไบรท์ตันและต่อเนื่องกับอาร์เซน่อล เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการวางเท้าและอ่านเกมได้ดีในจังหวะลูกนิ่ง จุดเด่นของตรอสซาร์คือความหลากหลายในการยิง ไม่ว่าจะเป็นการปั่นโค้งด้วยเท้าขวาแบบคลาสสิก หรือการยิงเรียดผ่านกำแพงเพื่อหลอกสายตาผู้รักษาประตู เขามักเลือกมุมยิงที่คาดไม่ถึง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ลูกฟรีคิกของเขากลายเป็นอาวุธลับที่หลายทีมไม่ทันตั้งตัว การวางบอลและน้ำหนักเท้าที่เขาใช้มักถูกควบคุมอย่างละเอียดจนทำให้ลูกพุ่งไปยังจุดที่ต้องการอย่างแม่นยำ เมื่อดูจากสถิติจะพบว่าแม้โอกาสยิงจะไม่ได้มีมากมายเหมือนนักเตะที่ได้ลูกนิ่งประจำ แต่ตรอสซาร์กลับทำประตูได้ในจังหวะที่สำคัญหรือในเกมใหญ่ซึ่งกดดันสูง ความเยือกเย็นของเขาและการอ่านแนวกำแพงคือสิ่งที่ทำให้ฟรีคิกของเขาแตกต่าง เขาคือนักเตะที่ไม่ต้องยิงแรงแต่ใช้สมองกับเทคนิคในการสร้างโอกาส และกำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เชื่อถือได้เมื่อพูดถึงจังหวะลูกตั้งเตะในระยะหวังผล

เควิน เดอ บรอยน์ – มิดฟิลด์อัจฉริยะกับลูกนิ่งที่อ่านเกมเหนือชั้น

การเล่นของ เควิน เดอ บรอยน์ เต็มไปด้วยจินตนาการ แต่เมื่อพูดถึงลูกฟรีคิกแล้ว เขาไม่ใช่แค่ตัวจ่ายบอลให้เพื่อนเท่านั้น หากยังเป็นคนที่สามารถปิดบัญชีเองได้อย่างเด็ดขาด ลูกยิงของเขามักแม่นยำและแรงในระดับที่กองหลังและผู้รักษาประตูไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน สไตล์ของเดอ บรอยน์ ไม่ใช่การปั่นลูกสวยงามแบบคลาสสิกทุกครั้ง แต่คือการเลือกยิงในจังหวะที่เหมาะสมที่สุด โดยพิจารณาจากตำแหน่งกำแพง ระยะห่าง และตำแหน่งผู้รักษาประตูอย่างละเอียด การยิงของเขาอาจมาในรูปแบบของลูกพุ่งแรงเสียบเสาแบบไม่มีเวลาให้ปฏิกิริยา หรือปั่นโค้งอย่างแม่นยำจากมุมแคบในระยะไกล นอกจากนี้ยังมีลูกยิงเร็วที่ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งตั้งตัว สถิติการยิงฟรีคิกของเขาอาจไม่ได้เยอะมากนักเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่คุณภาพและความสำคัญของแต่ละประตูนั้นสูงจนไม่มีใครปฏิเสธได้ เดอ บรอยน์คือนักเตะที่ครบเครื่อง และเมื่อต้องรับหน้าที่ยิงลูกนิ่ง ก็ไม่มีคำว่าเสียของ ทุกจังหวะที่เขายืนหลังบอลแฟนบอลจะรู้ทันทีว่าโอกาสได้ประตูนั้นอยู่ใกล้มากกว่าที่คิด

คริสเตียน อีริคเซ่น – เทคนิคละเอียดและสายตาที่แม่นยำเหนือระดับ

คริสเตียน อีริคเซ่น มีชื่อเสียงจากการยิงฟรีคิกตั้งแต่สมัยเล่นกับอาแจ็กซ์ ก่อนจะกลายเป็นจอมทัพให้กับสเปอร์สในพรีเมียร์ลีก และแม้ช่วงหลังจะประสบปัญหาสุขภาพ เขายังคงแสดงให้เห็นว่าทักษะในการยิงลูกนิ่งของเขาไม่เคยลดลงเลย จุดเด่นของอีริคเซ่นอยู่ที่ความละเอียดในการคำนวณองศาและแรงส่ง ซึ่งทำให้ลูกปั่นของเขาไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังแม่นยำในระดับที่ผู้รักษาประตูแทบไม่สามารถพุ่งทัน หลายครั้งที่เขายิงฟรีคิกเข้าในมุมที่ไม่มีใครคิดว่าจะเลือกยิง เช่น มุมแคบระหว่างกำแพงกับเสา หรือเสาสองที่ผู้รักษาประตูไม่ทันมอง การยิงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและไหวพริบ การใช้ร่างกายให้นิ่ง การวางเท้าที่มั่นคง และการสบตากับผู้รักษาประตูก่อนยิง เป็นสิ่งที่ทำให้อีริคเซ่นดูเหมือนนักกายกรรมที่กำลังวาดลวดลายด้วยเท้า การกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับแมนยูหลังผ่านเหตุการณ์ชีวิตเฉียดตายก็ยังไม่ทำให้ฝีเท้าด้านนี้ของเขาหายไปเลย เขายังคงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ผู้ชมและเพื่อนร่วมทีมมั่นใจได้เสมอ เมื่อได้ฟรีคิกใกล้กรอบ และต้องการประตูที่สร้างความแตกต่าง

สรุป

จากทั้ง 10 รายชื่อจะเห็นได้ชัดว่า การยิงฟรีคิกในพรีเมียร์ลีกไม่ได้มีรูปแบบตายตัว บางคนใช้พลัง บางคนใช้เทคนิค บางคนใช้ความแม่นยำและความกล้าในการตัดสินใจ ทุกลูกที่ส่งบอลผ่านกำแพงหรือเสียบมุมตาข่าย คือผลลัพธ์ของการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดความมั่นใจ และยังสะท้อนบุคลิกของผู้เล่นแต่ละรายอย่างลึกซึ้ง ฟรีคิกอาจเป็นแค่จังหวะสั้น ๆ ในเกม แต่มันสามารถพลิกสถานการณ์ เปลี่ยนคะแนน และสร้างความทรงจำที่แฟนบอลไม่เคยลืม รายชื่อนี้ไม่ใช่แค่คนที่ยิงได้มากที่สุด แต่คือคนที่ทำให้ลูกนิ่งธรรมดากลายเป็นภาพประทับใจในสนามฟุตบอล พวกเขาไม่ใช่แค่นักเตะฝีเท้าดี แต่ยังเป็นศิลปินที่ใช้เท้าปั้นจังหวะสวยงาม และยืนยันว่าลูกฟรีคิกยังคงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ลุ้นที่สุดของฟุตบอลเสมอ

บทความล่าสุด

Scroll to Top