• Home
  • บทความ
  • 10 นักเตะผู้ทุบสถิติโลกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025

10 นักเตะผู้ทุบสถิติโลกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025

10 นักเตะผู้ทุบสถิติโลกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025

สถิติโลกพรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล 2025 ของพรีเมียร์ลีกจะเป็นมากกว่าการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ยังเป็นปีแห่งปรากฏการณ์ทางสถิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอีกด้วย ผู้เข้าแข่งขัน 10 คนทำลาย สถิติโลกพรีเมียร์ลีก ในประเภทต่างๆ ตั้งแต่สถิติประตู แอสซิสต์ การเซฟ ไปจนถึงการผ่านบอลและการวิ่ง ผู้เล่นเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางกายภาพที่เหนือกว่าเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวินัย ไหวพริบ และความแข็งแกร่งทางจิตใจในการแข่งขันอีกด้วย ซึ่งทำให้พวกเขาโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ทุกคนมีเรื่องราวและการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง บางส่วนถูกมองข้ามโดยทีมใหญ่ๆ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนหนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็สามารถกลับมาสู่เวทีระดับสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้อีกครั้ง บทความนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักกับ 10 นักฟุตบอลที่ทำลายสถิติซึ่งไม่เพียงสร้างความฮือฮาในอังกฤษเท่านั้น แต่ยังเป็นกระแสในวงการฟุตบอลโลกอีกด้วย เราจะจัดอันดับจาก 1 ถึง 10 ตามข้อมูลที่คัดสรรมาอย่างรอบคอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุใดนักเตะเหล่านี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเกมที่แท้จริงในฤดูกาลนี้

หัวข้อข่าว

เออร์ลิง ฮาแลนด์ – เครื่องจักรถล่มประตูแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทำลายสถิติพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้ด้วยการยิง 46 ประตูในลีกเดียว และเขายังคงเป็นชื่อที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกพูดถึงในฤดูกาล 2025 นี่คือบุคคลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับกองหน้าในยุคนี้ จุดแข็งของเขาอยู่ที่ความสามารถในการจบสกอร์อันเด็ดขาด ด้วยความคล่องตัวอันชาญฉลาดและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าใครๆ เขาจึงสามารถหาพื้นที่และเวลาในการยิงได้อย่างแม่นยำแม้จะต้องเผชิญกับแนวรับที่แน่นหนาจากหลายทีมก็ตาม ฟอร์มที่ดีอย่างต่อเนื่องของเขาช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งตำแหน่งจ่าฝูง และช่วยลดภาระของเพื่อนร่วมทีมในการรุกได้อย่างมาก นอกจากนี้ ฮาลันด์ยังเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกได้ 6 ครั้งในหนึ่งฤดูกาลอีกด้วย ไม่พลาดจุดโทษแม้แต่ลูกเดียว ความมั่นใจและไหวพริบของเขาทำให้เออร์ลิง ฮาแลนด์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย และฤดูกาลนี้ยังได้เน้นย้ำอีกด้วยว่าเขาเป็นมากกว่าแค่ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในบางช่วงเวลา แต่เขาคือผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม

ฟิล โฟเด้น – เจ้าพ่อแอสซิสต์ผู้พลิกเกม

ในฤดูกาลนี้ ฟิล โฟเด้น ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจหลักของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยจบฤดูกาลด้วยสถิติแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกที่ 32 ครั้ง สร้างสรรค์เกมรุกให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โฟเด้นแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทั้งในแง่เทคนิค วิสัยทัศน์ และความเยือกเย็นในการตัดสินใจ เขาคือผู้เชื่อมโยงระหว่างแดนกลางกับแนวรุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความสามารถในการหาช่องว่างและจ่ายบอลทะลุแนวรับกลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาโดดเด่นเหนือผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันในลีก แม้จะยังอายุน้อย แต่โฟเด้นกลับเล่นด้วยความนิ่งเกินวัย มีความเข้าใจเกมที่ลึกซึ้ง และกล้ารับผิดชอบในจังหวะสำคัญ ๆ อยู่เสมอ แฟนบอลและนักวิจารณ์ต่างยกย่องให้ฤดูกาลนี้เป็นช่วงเวลาที่โฟเด้นกลายเป็นนักเตะระดับโลกอย่างเต็มตัว และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับบทบาทใหม่ที่มีความสำคัญระดับหัวใจของทีม

บูคาโย่ ซาก้า – ปีกขวาผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้อาร์เซนอล

บูคาโย่ ซาก้า ทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งกับอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้ ด้วยการสร้างสถิติใหม่ของสโมสรจากการยิงและแอสซิสต์รวมกันถึง 38 ครั้ง กลายเป็นนักเตะอายุต่ำกว่า 24 ปีที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล ซาก้ามีความเร็วที่ฉีกแนวรับคู่แข่งได้ทุกสถานการณ์ มีเทคนิคที่ละเอียดอ่อนและวิธีเล่นที่ฉลาด เขาไม่เพียงแค่สร้างเกมบุกให้ทีม แต่ยังถอยลงมาช่วยเกมรับได้อย่างมีวินัย นอกจากสถิติส่วนตัวที่โดดเด่นแล้ว เขายังมีบทบาทสำคัญในการนำอาร์เซนอลลุ้นแชมป์ถึงโค้งสุดท้าย ความเป็นผู้นำของซาก้าเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทีมต้องการแรงผลักดัน ความสำเร็จของเขาในฤดูกาลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของดาวรุ่งรายนี้ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทั้งสโมสรและทีมชาติอย่างแท้จริง

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – เจ้าของสถิติยิงต่อเนื่องนานที่สุด

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่รักษาฟอร์มได้เสถียรที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยฤดูกาลนี้เขาทำลายสถิติการยิงประตูติดต่อกันนานที่สุดในลีกที่ 14 นัดติดต่อกัน โดยไม่มีช่วงดรอปให้เห็นเลยแม้แต่นัดเดียว ซาลาห์ยังคงเป็นนักเตะที่เล่นด้วยความกระหายและมีสัญชาตญาณการทำประตูที่เฉียบคมทุกครั้งที่ได้บอล การยืนตำแหน่งของเขาทำให้แนวรับต้องเสียสมาธิอยู่เสมอ และการยิงมุมแคบแบบแม่นยำยังเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ง่าย ๆ แม้อายุจะเริ่มเข้าเลขสาม แต่ซาลาห์ยังคงรักษาระดับความฟิตได้ดีเยี่ยม และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอลง ความเป็นมืออาชีพและความสม่ำเสมอคือสิ่งที่ทำให้เขายืนระยะในพรีเมียร์ลีกได้อย่างมั่นคง และฤดูกาลนี้ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือนักเตะที่ทีมไม่อาจขาดได้เลย

เดแคลน ไรซ์ – กองกลางสายสั่งการที่มีสถิติผ่านบอลแม่นยำที่สุด

เดแคลน ไรซ์ สร้างชื่อในฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นนักเตะที่มีสถิติผ่านบอลแม่นยำที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยเปอร์เซ็นต์สูงถึง 94.8% จากจำนวนบอลมากกว่า 2,000 ครั้ง ทำให้เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของอาร์เซนอลอย่างแท้จริง เขาไม่เพียงแค่เป็นตัวตัดเกมที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีความสามารถในการครองบอลและเริ่มเกมรุกจากแนวลึกได้อย่างมั่นใจ การมองเห็นภาพรวมของเกมที่ชัดเจนทำให้เขาเลือกจังหวะจ่ายบอลได้อย่างชาญฉลาดอยู่เสมอ ความนิ่งและความอดทนภายใต้แรงกดดันทำให้เขาแตกต่างจากกองกลางทั่วไป และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างความสมดุลในทีมอย่างแท้จริง ฤดูกาลนี้ ไรซ์พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ใช่แค่คนวิ่งไล่บอล แต่คือมันสมองของทีมที่คอยควบคุมจังหวะตลอดทั้ง 90 นาที

อลิสซอน เบ็คเกอร์ – นายทวารผู้ทำสถิติคลีนชีตมากที่สุด

อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยกระดับการเฝ้าเสาอีกครั้งในฤดูกาล 2025 ด้วยการเก็บคลีนชีตถึง 24 นัดในลีก สร้างสถิติใหม่ของลิเวอร์พูลและพรีเมียร์ลีก การตัดสินใจในกรอบเขตโทษของเขายังเฉียบคมเช่นเดิม การออกมาตัดบอล การป้องกันลูกกลางอากาศ และการยืนตำแหน่งของเขายังเป็นจุดแข็งที่ทำให้แนวรับมั่นใจได้เสมอ แม้ต้องรับมือกับเกมบุกจากคู่แข่งระดับท็อป อลิสซอนก็ยังยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ความนิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมาไม่เพียงช่วยให้แนวรับทำงานได้ง่ายขึ้น แต่ยังส่งผลถึงความมั่นใจของทีมโดยรวมอีกด้วย บทบาทของเขาในปีนี้ไม่ใช่แค่การเซฟประตู แต่ยังเป็นผู้นำแนวหลังที่สามารถคุมเกมจากแดนหลังได้ดีเยี่ยม

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – แบ็กขวาผู้จ่ายบอลแม่นราวจับวาง

ฤดูกาล 2025 เป็นอีกปีที่เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยืนยันความสำคัญของเขาในระบบการเล่นของลิเวอร์พูล ด้วยการทำสถิติแอสซิสต์จากตำแหน่งกองหลังมากที่สุดที่ 19 ครั้งในลีก ความแม่นยำในการครอสบอลของเขายังคงเป็นอาวุธหลักที่ทำให้ทีมได้เปรียบในเกมรุกทุกครั้งที่ได้เล่นริมเส้น ความสามารถในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกด้วยจังหวะเดียวทำให้เขากลายเป็นแบ็กขวายุคใหม่ที่ไม่ได้เล่นเพื่อเกมรับเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นตัวสร้างสรรค์โอกาสที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพลย์เมคเกอร์แฝง เทรนต์ยังมีพัฒนาการด้านเกมรับที่โดดเด่นกว่าหลายฤดูกาลที่ผ่านมา การยืนตำแหน่งและการเข้าสกัดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ครบเครื่องในตำแหน่งฟูลแบ็ก และยังรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอจนถึงช่วงท้ายฤดูกาล

แฮร์รี่ เคน – ดาวยิงอังกฤษผู้กลับมาเยือนพรีเมียร์ลีก

หลังจากไปค้าแข้งในบุนเดสลีกาอยู่พักหนึ่ง แฮร์รี่ เคน กลับคืนพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายเป็นการกลับมาที่สร้างแรงสั่นสะเทือน เขาทำไป 28 ประตูในลีก พร้อมคว้ารางวัลรองดาวซัลโว ความนิ่งในการยิงจุดโทษ และความสามารถในการหาช่องทำประตูยังคงเป็นจุดแข็งที่ไม่เสื่อมคลาย สิ่งที่โดดเด่นคือการเล่นที่ฉลาดของเขาในแดนหน้า เคนไม่ได้พึ่งเพียงพละกำลังหรือความเร็ว แต่ใช้มันสมองและการวางตำแหน่งเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีม การประสานงานกับกองกลางใหม่ของทีมอย่างบรูโน่ แฟร์นันด์ส และเมาท์ ก็ช่วยเปิดพื้นที่ให้เคนเล่นง่ายขึ้นและเป็นอิสระมากขึ้น ผลงานในฤดูกาลนี้ยืนยันว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดของยุโรป

โดมินิค โซบอสไล – มิดฟิลด์พลังเทอร์โบของลิเวอร์พูล

โดมินิค โซบอสไล กลายเป็นขุมพลังหลักในแดนกลางของลิเวอร์พูลตั้งแต่ต้นฤดูกาล ด้วยสถิติวิ่งรวมสูงสุดในพรีเมียร์ลีกถึง 412 กิโลเมตร ตลอดฤดูกาลที่ลงเล่น ความฟิตของเขาเหนือชั้นอย่างชัดเจน และไม่ใช่แค่จำนวนการวิ่ง แต่ยังวิ่งด้วยประสิทธิภาพที่สร้างประโยชน์ให้กับทีมในทุกจังหวะ โซบอสไลมีความเร็ว ความแข็งแรง และวิสัยทัศน์ในการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถขับเคลื่อนเกมจากแดนกลางได้แบบไร้สะดุด อีกทั้งยังมีส่วนร่วมกับประตูทั้งการยิงไกลและการจ่ายบอลจังหวะสำคัญ เขาคือคำตอบของลิเวอร์พูลในการเติมพลังงานให้แดนกลาง และพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมกับฟุตบอลอังกฤษทั้งในแง่ร่างกายและไอเดียเกม

มาร์ติน โอเดการ์ด – จอมทัพแห่งอาร์เซนอล

มาร์ติน โอเดการ์ด ยังคงโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โดยกลายเป็นนักเตะที่มีโอกาสสร้างจังหวะยิงมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยตัวเลขที่สูงถึง 142 ครั้ง บทบาทของเขาคือการควบคุมเกมรุก และกำหนดทิศทางของทีมอย่างมีประสิทธิภาพ โอเดการ์ดมีวิธีการเล่นที่ละเอียด และอ่านเกมได้อย่างแม่นยำ การเคลื่อนที่ของเขาทำให้เพื่อนร่วมทีมสามารถเปิดพื้นที่ได้มากขึ้น ความสามารถในการเล่นด้วยเท้าทั้งสองข้าง และความใจเย็นเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษ เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในกองกลางตัวรุก เขาทำให้แผนการเล่นของอาร์เซนอลมีมิติหลากหลาย และสามารถสร้างสรรค์โอกาสได้แม้ในพื้นที่แคบ ๆ ช่วงท้ายฤดูกาล โอเดการ์ดยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของยุโรปในตอนนี้

สรุป

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025 คือฤดูกาลที่เต็มไปด้วยการทำลายขีดจำกัดจากนักเตะระดับหัวแถวของโลก แต่ละคนล้วนฝากผลงานที่เป็นมากกว่าสถิติ เพราะเบื้องหลังตัวเลขคือความทุ่มเท มุ่งมั่น และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ตั้งแต่กองหน้าที่ยิงประตูเกินหลักสี่สิบ ไปจนถึงมิดฟิลด์ที่ผ่านบอลแม่นระดับเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ล้วนสร้างสีสันและแรงบันดาลใจให้แฟนบอลทั่วโลกได้ชื่นชม การที่นักเตะแต่ละคนสามารถยกระดับตัวเองในลีกที่แข่งขันกันสูงสุดอย่างพรีเมียร์ลีก ถือเป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถหากมีความตั้งใจ และด้วยผลงานของพวกเขา ฤดูกาลนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในปีที่จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลอย่างไร้ข้อกังขา

บทความล่าสุด

Scroll to Top