อาร์เซนอล

ข่าว แฟนบอลไม่ต้องรอจบซีซั่น! ตำนานลิเวอร์พูลชี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซบอาร์เซน่อลเป็น “ดีลยอดแย่ของฤดูกาล”

ข่าว แฟนบอลไม่ต้องรอจบซีซั่น! ตำนานลิเวอร์พูลชี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซบอาร์เซน่อลเป็น “ดีลยอดแย่ของฤดูกาล” ราฮีม สเตอร์ลิง ย้ายจากเชลซีมาอาร์เซน่อลด้วยสัญญายืมตัวในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายฤดูกาล 2024/25 โดยการย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสเตอร์ลิงไม่ได้อยู่ในแผนของเอนโซ มาเรสก้า โค้ชเชลซี ด้านอาร์เซน่อลที่ต้องการเพิ่มตัวเลือกในแนวรุก มิเกล อาร์เตตา ซึ่งเคยร่วมงานกับสเตอร์ลิงที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มาก่อน จึงตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมเพื่อหวังฟื้นฟูฟอร์มของปีกชาวอังกฤษวัย 29 ปี อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิงกลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจได้ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ทั้งแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญเริ่มตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของดีลนี้ และแม้ตัวนักเตะจะมองว่าการย้ายมานี้เป็น ตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หลายฝ่ายยังมองว่าผลงานที่ตกต่ำทำให้ดีลนี้กลายเป็นข้อผิดพลาดสำคัญของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอและการขาดความเฉียบคมในเกมรุก ทำให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กลายเป็นจุดอ่อนในแนวรุกของอาร์เซน่อล นอกจากนั้น การไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบของทีมได้ยังสร้างแรงกดดันทั้งต่อเขาและสโมสรเอง ในมุมของแฟนบอล บางกลุ่มมองว่านี่คือ “ดีลยอดแย่ของฤดูกาล” และเป็นบทเรียนสำหรับทีมในการคัดเลือกผู้เล่นในอนาคต หัวข้อข่าว ผลที่ได้รับ อาร์เซน่อลยังคงมีเวลาปรับปรุงฟอร์มการเล่นของสเตอร์ลิงในช่วงที่เหลือของฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่ต้องการผลงานจากผู้เล่นตัวเก๋า หาก ราฮีม สเตอร์ลิง สามารถปรับตัวและโชว์ฟอร์มที่ดีขึ้นได้ เขาอาจพลิกสถานการณ์และเปลี่ยนความคิดของแฟนบอลที่วิจารณ์เขาในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากฟอร์มยังคงตกต่ำ อาร์เซน่อลอาจไม่ต่อสัญญาหรือเลือกส่งเขากลับเชลซีในช่วงจบฤดูกาล อนาคตต่อไป ความท้าทายในลีกเอ ในฤดูกาลหน้า […]

ข่าว แฟนบอลไม่ต้องรอจบซีซั่น! ตำนานลิเวอร์พูลชี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซบอาร์เซน่อลเป็น “ดีลยอดแย่ของฤดูกาล” Read More »

ข่าวหลังเกมเจ๊าๆกันไป! ลิเวอร์พูล บุกตี อาร์เซน่อล เสมอ 2-2 หล่นที่ 2 ศึกพรีเมียร์ลีก

Home เจ๊าๆกันไป! ลิเวอร์พูล บุกตี อาร์เซน่อล เสมอ 2-2 หล่นที่ 2 ศึกพรีเมียร์ลีก Facebook Twitter Linkedin ในเกมพรีเมียร์ลีกที่จบด้วยผลเสมอ 2-2 ระหว่าง อาร์เซน่อลและลิเวอร์พูล ทั้งสองทีมใช้รูปแบบและกลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นถึงสไตล์การเล่นและการตัดสินใจที่เฉียบแหลม การแข่งขันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่นาทีแรกจนจบ และนี่คือรายละเอียดเชิงลึกที่สำคัญของเกมนี้ แผนการเล่น อาร์เซน่อล ใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยมีมิดฟิลด์ตัวรับสองคนคอยซ้อนและสนับสนุนการขึ้นเกมรุกจากกองกลาง ขณะที่ตัวทำเกมในแนวรุกเน้นการเคลื่อนที่กดดันเพื่อทำให้แนวรับของลิเวอร์พูลเจองานยาก และมีการเน้นการโจมตีจากทางด้านข้างเพื่อเปิดช่องให้กองหน้ามีพื้นที่เล่นในกรอบเขตโทษ ลิเวอร์พูล มาในระบบ 4-3-3 เน้นการเล่นเพรสซิ่งสูง เพื่อบีบอาร์เซน่อลในแดนกลาง มีการเคลื่อนที่เชิงรุกของผู้เล่นแนวหน้าเพื่อหาช่องและเปิดพื้นที่ด้านข้าง แนวรุกสามประสานทำงานเชื่อมกันได้ดีโดยอาศัยความเร็วและความคล่องตัว หัวข้อข่าว การเสียประตู ทั้งสองทีมมีการบุกและการป้องกันที่ดุดัน แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่ทำให้แต่ละฝ่ายเสียประตู อาร์เซน่อล เสียประตูจากการที่กองหลังไม่สามารถจัดการกับลูกโยนหรือการเล่นของแนวรุกของลิเวอร์พูลได้ทันท่วงที เปิดโอกาสให้ลิเวอร์พูลยิงทำประตู ลิเวอร์พูล เสียประตูจากการปล่อยให้แนวรับถอยลึกเกินไป ทำให้กองกลางไม่สามารถกดดันและป้องกันช่องว่างระหว่างกองหลังและผู้รักษาประตูได้ดีพอ ทำให้อาร์เซน่อลสามารถทำประตูตีเสมอได้ การปรับแผนการตัดสินใจ อาร์เซน่อล ได้เปลี่ยนแท็คติกในครึ่งหลังโดยการดันแนวรับสูงขึ้นเพื่อลดการถูกเพรสซิ่งในแดนตัวเอง และหันไปเน้นการเล่นบอลสวนกลับที่เน้นความเร็ว ขณะเดียวกันก็ใช้การบุกจากกลางสนามและด้านข้างที่ลิเวอร์พูลมีช่องว่าง ลิเวอร์พูล เปลี่ยนแผนโดยส่งผู้เล่นมิดฟิลด์ลงไปมากขึ้นเพื่อควบคุมการเล่น และพยายามทำให้เกมช้าลงเพื่อไม่ให้อาร์เซน่อลเล่นสวนกลับได้ง่าย ข้อดีข้อเสีย ข้อดีของอาร์เซน่อล

ข่าวหลังเกมเจ๊าๆกันไป! ลิเวอร์พูล บุกตี อาร์เซน่อล เสมอ 2-2 หล่นที่ 2 ศึกพรีเมียร์ลีก Read More »

ลาแล้ว! แจ็ค วิลเชียร์ทีมสตาฟฟ์โค้ชของอาร์เซนอล ไปสู่บทบาทใหม่ในทีมชุดใหญ่นอริช ซิตี้

Home ลาแล้ว! แจ็ค วิลเชียร์ทีมสตาฟฟ์โค้ชของอาร์เซนอล ไปสู่บทบาทใหม่ในทีมชุดใหญ่นอริช ซิตี้ Facebook Twitter Linkedin       การย้ายของแจ็ค วิลเชียร์ (Jack Wilshere) จากการทำงานในทีมสตาฟฟ์โค้ชของอาร์เซนอลไปสู่บทบาทใหม่ในทีมชุดใหญ่    นอริช ซิตี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ติดตามวิลเชียร์ตั้งแต่สมัยแรกๆที่เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งของอาร์เซนอล รายละเอียดของเหตุการณ์ การทำงานที่อาร์เซนอล หลังจากที่วิลเชียร์เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่สะสมมายาวนาน เขาเริ่มเส้นทางใหม่ในวงการฟุตบอลในฐานะโค้ช วิลเชียร์ทำงานเป็นโค้ชในทีมเยาวชนของอาร์เซนอล และได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในด้านการเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคและความเข้าใจเกม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลงานที่ดีในตำแหน่งโค้ชเยาวชน แต่โอกาสในการเติบโตในบทบาทโค้ชของวิลเชียร์ในทีมชุดใหญ่ของอาร์เซนอลยังไม่เปิดกว้างมากสักเท่าไหร่ การย้ายไปนอริช ซิตี้ วิลเชียร์ตัดสินใจย้ายออกจากอาร์เซนอลเพื่อเข้าร่วมเป็นสตาฟฟ์โค้ชในทีมชุดใหญ่ของนอริช ซิตี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขา เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้รับหน้าที่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสร การร่วมงานในทีมชุดใหญ่นี้เปิดโอกาสให้วิลเชียร์ได้นำประสบการณ์และความรู้จากสมัยเป็นนักเตะระดับสูงมาช่วยในการพัฒนานักเตะและร่วมวางแผนยุทธศาสตร์ของทีม หัวข้อข่าว เหตุผลที่ตัดสินใจย้าย วิลเชียร์ตัดสินใจย้ายจากการเป็นโค้ชในทีมเยาวชนของอาร์เซนอล สู่การร่วมทีมสตาฟฟ์โค้ชชุดใหญ่นอริช ซิตี้ มีหลายเหตุผลที่ส่งผลต่อการตัดสินใจนี้ โอกาสในการเติบโตในบทบาทโค้ชชุดใหญ่  การทำงานในทีมเยาวชนของอาร์เซนอลเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับวิลเชียร์ในการเริ่มต้นเส้นทางการเป็นโค้ช แต่การย้ายไปนอริช ซิตี้ทำให้เขาได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในการทำงานกับทีมชุดใหญ่ การทำงานในระดับที่สูงขึ้นนี้จะเปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาทักษะการโค้ชและการวางแผนยุทธศาสตร์ในเกมการแข่งขันจริงในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนาอาชีพโค้ชของเขา ความต้องการท้าทายใหม่ๆ  หลังจากที่ทำงานในระบบทีมเยาวชนของอาร์เซนอลมา วิลเชียร์อาจมองหาความท้าทายใหม่ในระดับที่สูงขึ้น การทำงานในภาวะที่แตกต่างและการทำงานร่วมกับนักเตะระดับทีมชุดใหญ่

ลาแล้ว! แจ็ค วิลเชียร์ทีมสตาฟฟ์โค้ชของอาร์เซนอล ไปสู่บทบาทใหม่ในทีมชุดใหญ่นอริช ซิตี้ Read More »

สโมสรอาร์เซนอล

Home สโมสรอาร์เซนอล Facebook Twitter Linkedin       ประวัติศาสตร์สโมสรอาร์เซนอล การเดินทางสู่ความสำเร็จและตำนานแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ ประวัติศาสตร์และการก่อตั้ง สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (Arsenal Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์ยาวนานในประเทศอังกฤษ สโมสรถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1886 โดยกลุ่มคนงานอาวุธยุทโธปกรณ์ในเมืองวูลิช (Woolwich) ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน โดยในตอนแรกสโมสรใช้ชื่อว่า ไดอัล สแควร์ (Dial Square) และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Royal Arsenal ในปี 1886 ต่อมาสโมสรได้ย้ายไปอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอนในปี 1913 และเปลี่ยนชื่อเป็น อาร์เซนอล (Arsenal FC) อย่างเป็นทางการ หัวข้อข่าว รายการแชมป์ที่สำคัญของสโมสรอาร์เซนอล แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ (Premier League / First Division)อาร์เซนอลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้ทั้งหมด 13 สมัย โดยที่จดจำได้มากที่สุดคือฤดูกาล 2003-04 ทีมสามารถคว้าแชมป์โดยไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาล และได้รับฉายา The Invincibles (ทีมไร้พ่าย)

สโมสรอาร์เซนอล Read More »

Scroll to Top