รุด กุลลิท (Ruud Gullit)

ประวัตินักเตะฟุตบอล Ruud Gullit

Ruud Gullit เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลและเป็นไอคอนของวงการฟุตบอลยุโรปยุค 1980-1990 เขาเป็นที่รู้จักด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ความสามารถรอบด้าน และความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง กุลลิทมีบทบาทสำคัญในการพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ยูโร 1988 และประสบความสำเร็จมากมายกับสโมสรที่เขาเล่น ไม่ว่าจะเป็นในอิตาลีหรืออังกฤษ

  • ชื่อเต็ม: รุด ดีล กุลลิท (Ruud Dil Gullit)
  • วันเกิด: 1 กันยายน 1962
  • สถานที่เกิด: อัมสเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์
  • ส่วนสูง: 191 ซม.
  • ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก, กองหน้า

ชีวิตในวัยเด็กก่อนเริ่มต้นอาชีพ

รุด กุลลิท เกิดในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเริ่มฝึกฝนที่สโมสรเยาวชนเล็กๆ ในท้องถิ่น ก่อนที่จะได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ เฮลมอนด์ สปอร์ต (HFC Haarlem) ในปี 1978 ขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

หลังจากที่เขาก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ กุลลิทก็เริ่มสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ด้วยสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และความสามารถในการเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่อื่นๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์

หัวข้อข่าว

เริ่มต้นอาชีพกับสโมสร

เฮลมอนด์ สปอร์ต และ เฟเยนูร์ด (1979–1985)

กุลลิทเริ่มต้นอาชีพกับเฮลมอนด์ สปอร์ตในฤดูกาล 1979–1980 เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในด้านการเล่นฟุตบอลอย่างชัดเจน หลังจากนั้นในปี 1982 กุลลิทย้ายไปร่วมทีม เฟเยนูร์ด (Feyenoord) ซึ่งเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกดัตช์ ที่นี่เขาได้เล่นร่วมกับ โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff) ตำนานฟุตบอลชาวดัตช์ และพัฒนาทักษะจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในลีกเนเธอร์แลนด์

ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเฟเยนูร์ด กุลลิทช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี (Eredivisie) ในปี 1984 และแชมป์ KNVB คัพ ในปีเดียวกัน ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประเทศ

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (1985–1987)

ในปี 1985 กุลลิทย้ายไปร่วมทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (PSV Eindhoven) ซึ่งเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่อีกแห่งในเนเธอร์แลนด์ ที่นี่กุลลิทยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำประตูและการสร้างสรรค์เกมที่โดดเด่น เขาช่วยพีเอสวีคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี สองสมัยติดต่อกันในปี 1986 และ 1987 ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขาในช่วงเวลานี้ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

เอซี มิลาน (1987–1993)

ในปี 1987 กุลลิทย้ายไปร่วมทีม เอซี มิลาน (AC Milan) ในเซเรียอา อิตาลี ด้วยค่าตัวที่สูงในขณะนั้น ที่มิลาน กุลลิทกลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยยกระดับทีมให้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในยุโรป เขาเล่นร่วมกับผู้เล่นระดับตำนานอย่าง มาร์โก แวน บาสเท่น (Marco van Basten) และ แฟรงก์ ไรจ์การ์ด (Frank Rijkaard)

กุลลิทช่วยให้เอซี มิลานคว้าแชมป์ เซเรียอา ในปี 1988 และแชมป์ ยูโรเปียน คัพ (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) สองสมัยติดต่อกันในปี 1989 และ 1990 ความสามารถในการเล่นได้ทั้งกองกลางและกองหน้า ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทรงอิทธิพลมากในทีม

ซามพ์โดเรีย และ เชลซี (1993–1998)

หลังจากประสบความสำเร็จกับเอซี มิลาน กุลลิทย้ายไปเล่นให้กับ ซามพ์โดเรีย (Sampdoria) ในปี 1993 และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ในปี 1994 หลังจากนั้นในปี 1995 เขาย้ายไปเล่นให้กับ เชลซี (Chelsea) ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งในตอนแรกเขามีบทบาทเป็นผู้เล่น ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมในภายหลัง

การเป็นผู้จัดการทีมเชลซี (1996–1998)

กุลลิทกลายเป็นผู้จัดการทีมเชลซีในปี 1996 และเขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ในปี 1997 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของสโมสรในรอบกว่า 25 ปี นอกจากนี้ กุลลิทยังเป็นผู้จัดการทีมต่างชาติคนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ในฟุตบอลอังกฤษอีกด้วย

การเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์

รุด กุลลิทเป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 โดยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขากับทีมชาติเกิดขึ้นใน ยูโร 1988 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรก กุลลิททำประตูเปิดในนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะทีมชาติสหภาพโซเวียต 2-0 และเขายังเป็นกัปตันทีมที่นำพาเนเธอร์แลนด์สู่ชัยชนะในครั้งนั้น

นอกจากนี้ กุลลิทยังได้ลงเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในฟุตบอลโลกและรายการยูโรอื่นๆ โดยเขาลงเล่นให้กับทีมชาติไปทั้งหมด 66 นัด และทำประตูได้ 17 ประตู

รูปแบบสไตล์การเล่น

กุลลิท เป็นนักเตะที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางและกองหน้า เขามีความสามารถในการครองบอลและเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการจ่ายบอลที่แม่นยำ นอกจากนี้เขายังมีความแข็งแกร่งทางร่างกายและความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศที่ดีเยี่ยม ทำให้เขาเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านเกมรุกและเกมรับ

นอกจากนี้ กุลลิทยังมีความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในสนาม และมีทักษะในการสร้างความสมดุลให้กับทีม เขาเป็นนักเตะที่สามารถเปลี่ยนแปลงจังหวะของเกมได้อย่างรวดเร็ว และเป็นที่รู้จักในเรื่องการยิงประตูจากระยะไกลที่ทรงพลัง

เกียรติประวัติของเขา

  • แชมป์ยูโร: 1988 กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์
  • แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (ยูโรเปียน คัพ): 1988–1989, 1989–1990 กับเอซี มิลาน
  • แชมป์เซเรียอา: 1987–1988, 1991–1992, 1992–1993 กับเอซี มิลาน
  • แชมป์โคปปา อิตาเลีย: 1993–1994 กับซามพ์โดเรีย
  • แชมป์ KNVB คัพ: 1983–1984 กับเฟเยนูร์ด
  • แชมป์เอเรดิวิซี: 1983–1984 กับเฟเยนูร์ด, 1985–1986, 1986–1987 กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน
  • ผู้จัดการทีมแชมป์เอฟเอคัพ: 1996–1997 กับเชลซี
  • บัลลงดอร์: 1987

สรุป

กุลลิท เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการฟุตบอลยุค 1980-1990 ความสามารถรอบด้านของเขา ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม ทำให้เขาเป็นตำนานในวงการฟุตบอล ความสำเร็จของเขากับทีมชาติเนเธอร์แลนด์และสโมสรต่างๆ ทำให้ชื่อของกุลลิทยังคงเป็นที่จดจำและยกย่องในวงการฟุตบอลจนถึงปัจจุบัน

บทความล่าสุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเตรียมยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อยให้ อัลฟอนโซ่ เดวิส สูงกว่าที่ บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด พร้อมจ่าย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเตรียมยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อยให้ อัลฟอนโซ่ เดวิส สูงกว่าที่

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล ระบุ ปัจจัยหลักที่ทำให้ตนมีพัฒนาการที่ดีเป็นเพราะตนชอบอ่านหนังสือ หลังเจ้าตัวเล่นได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง

Home โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล

Scroll to Top