ข่าวหลังเกม

ข่าวหลังเกมยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป รอบคัดเลือก นอร์เวย์ ยู21 VS ฟินแลนด์ ยู21 จบด้วยสกอร์ 2-1 ประตู

Home ข่าวหลังเกมยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป รอบคัดเลือก นอร์เวย์ ยู21 VS ฟินแลนด์ ยู21 จบด้วยสกอร์ 2-1 ประตู Facebook Twitter Linkedin ข่าวหลังเกม: นอร์เวย์ ยู21 vs ฟินแลนด์ ยู21 2-1  วันที่แข่งขัน 19 พฤศจิกายน 2567   แผนการเล่น นอร์เวย์ ยู21 ใช้ระบบ 4-3-3 เน้นการโจมตีจากปีกและการจ่ายบอลทะลุช่องกลางสนาม กองกลางเน้นควบคุมจังหวะเกม และมีกองหน้าตัวเป้าคอยกดดันแนวรับฟินแลนด์   ฟินแลนด์ ยู21 ตั้งรับในระบบ 4-4-2 เพื่อป้องกันเกมบุกของนอร์เวย์ พร้อมใช้การสวนกลับเร็วผ่านปีกและกองหน้าคู่ที่มีความเร็ว   หัวข้อข่าว การเสียประตู ฟินแลนด์ ยู21 ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 23 ฟินแลนด์ใช้การสวนกลับที่มีประสิทธิภาพ เริ่มจากการแย่งบอลในแดนตัวเอง ส่งบอลยาวให้กองหน้าซึ่งสามารถหลุดแนวรับนอร์เวย์ที่ยืนผิดพลาด ก่อนจะจบสกอร์ด้วยความเฉียบขาด   นอร์เวย์ ยู21 ตีเสมอ […]

ข่าวหลังเกมยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป รอบคัดเลือก นอร์เวย์ ยู21 VS ฟินแลนด์ ยู21 จบด้วยสกอร์ 2-1 ประตู Read More »

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ทาจิกิสถาน VS อัฟกานิสถาน จบด้วยสกอร์ 3-1 ประตู

Home ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ทาจิกิสถาน VS อัฟกานิสถาน จบด้วยสกอร์ 3-1 ประตู Facebook Twitter Linkedin ข่าวหลังเกมกระชับมิตรระหว่าง ทาจิกิสถาน VS อัฟกานิสถาน (3-1)  วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567   แผนการเล่น ทาจิกิสถาน    กองหลัง ตั้งรับลึกแต่เน้นเกมสวนกลับรวดเร็ว     มิดฟิลด์ตัวกลาง (2 คน) คอยตัดเกมและเชื่อมเกมรุก     ตัวรุก ใช้ปีกที่มีความเร็วและความสามารถในการเลี้ยงบอลเพื่อสร้างโอกาส     กองหน้าเดี่ยว เน้นการพักบอลและเคลื่อนที่หาช่องยิง   อัฟกานิสถาน     กองหลัง เน้นความรัดกุม     กองกลาง เล่นเชื่อมโยงเกมจากหลังไปหน้าโดยใช้บอลยาว     กองหน้า 2 คน พยายามกดดันกองหลังคู่แข่งด้วยการเพรสซิ่งสูง  หัวข้อข่าว การเสียประตู ทาจิกิสถาน   เสีย 1 ประตู (นาทีที่ 45)    เกิดจากการตั้งรับที่หลวมในจังหวะเซ็ตพีซ (ลูกเตะมุม)     กองหลังไม่ประกบผู้เล่นของอัฟกานิสถานแน่นพอ ทำให้เสียประตูจากการโหม่ง   อัฟกานิสถาน   ลูกที่ 1

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ทาจิกิสถาน VS อัฟกานิสถาน จบด้วยสกอร์ 3-1 ประตู Read More »

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ฮ่องกง VS มอริเชียส จบด้วยสกอร์ 1-0 ประตู

Home ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ฮ่องกง VS มอริเชียส จบด้วยสกอร์ 1-0 ประตู Facebook Twitter Linkedin ในการแข่งขันฟุตบอลเกมกระชับมิตร ฮ่องกง 1-0 มอริเชียส (19/11/67) แผนการเล่น ฮ่องกง (4-2-3-1)    ใช้ระบบการเล่นที่เน้นความสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ    กองหลังยืนลึกเพื่อป้องกันการสวนกลับ    กองกลางสองคนเล่นหน้ากองหลังเพื่อปิดช่องว่าง    ผู้เล่นตัวรุกสามคนสนับสนุนศูนย์หน้าเดี่ยวในแดนหน้า   มอริเชียส (4-4-2)    ระบบการเล่นที่เรียบง่าย เน้นความแน่นในเกมรับและใช้การสวนกลับ    กองหลัง 4 คนเน้นการเล่นอย่างรัดกุม    กองกลางเล่นแบบไดมอนด์ มีตัวรับคอยช่วยในเกมรับและตัวรุกเชื่อมเกมกับกองหน้า   หัวข้อข่าว การเสียประตู ประตูเดียวของเกม    ประตูเกิดขึ้นในนาทีที่ 58 จากการทำประตูของ เฉิน หยวนฉี (Chen Yuanqi) กองหน้าฮ่องกง    เป็นจังหวะที่ฮ่องกงสร้างเกมรุกต่อเนื่องทางริมเส้นขวา ก่อนที่ปีกจะเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้เฉินหยวนฉีโหม่งเสียบมุมเสาไกล   จุดอ่อนของมอริเชียส    กองหลังมีปัญหาในการจัดระเบียบเกมรับ โดยเฉพาะการปิดพื้นที่หน้าปากประตู    การประสานงานระหว่างกองหลังตัวกลางและแบ็คขาดความชัดเจน ทำให้มีพื้นที่ให้เฉิน หยวนฉี โฉบเข้าทำประตู   การปรับแผนและการตัดสินใจ

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ ฮ่องกง VS มอริเชียส จบด้วยสกอร์ 1-0 ประตู Read More »

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ เมียนมาร์ VS เลบานอน จบด้วยสกอร์ 2-3 ประตู

Home ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ เมียนมาร์VS เลบานอน จบด้วยสกอร์ 2-3 ประตู Facebook Twitter Linkedin ในการแข่งขันฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ เมียนมาร์ 2-3 เลบานอน วันที่แข่งขัน 19 พฤศจิกายน 2567   แผนการเล่น เมียนมาร์    ใช้แผนการเล่นที่เน้นความคล่องตัวในเกมรุก โดยมีปีกสองฝั่งที่เน้นการเลี้ยงบอลและครอสบอลจากริมเส้น      แดนกลางมีมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม 1 คน และตัวเชื่อมเกมอีก 2 คนที่มีบทบาททั้งในเกมรุกและรับ      แนวรับพยายามยืนตำแหน่งให้แน่นและเล่นเกมสวนกลับเร็วเมื่อได้บอล   เลบานอน     เล่นเกมรัดกุมในแดนกลาง ใช้มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนเพื่อช่วยป้องกันการโจมตีจากคู่แข่ง     มีเพลย์เมกเกอร์ที่คอยสร้างสรรค์โอกาสให้กับกองหน้าตัวเป้า      เน้นการโจมตีจากแดนกลางด้วยบอลยาวและการเล่นลูกตั้งเตะ   หัวข้อข่าว การเสียประตู  ประตูแรกของเลบานอน (นาทีที่ 15)      เกิดจากความผิดพลาดในการประกบตัวของแนวรับเมียนมาร์       เลบานอนเล่นบอลจากลูกตั้งเตะ โดยกองหลังเมียนมาร์ปล่อยให้กองหน้าคู่แข่งโหม่งเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย   ประตูที่สองของเลบานอน (นาทีที่ 42)     มาจากเกมโต้กลับเร็วของเลบานอน หลังจากมิดฟิลด์เมียนมาร์เสียบอลในแดนกลาง       ผู้เล่นเลบานอนใช้ความเร็วทะลุแนวรับและยิงผ่านผู้รักษาประตู   ประตูที่สามของเลบานอน (นาทีที่ 68)    เกิดจากการเล่นเกมเพรสซิ่งสูงของเลบานอน

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรทีมชาติ เมียนมาร์ VS เลบานอน จบด้วยสกอร์ 2-3 ประตู Read More »

ข่าวหลังเกม ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ระหว่าง ปารากวัย VS อาร์เจนตินา จบด้วยสกอร์ 2-1

Home ข่าวหลังเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ระหว่าง ปารากวัย VS อาร์เจนตินา จบด้วยสกอร์ 2-1 Facebook Twitter Linkedin ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ระหว่างปารากวัยและอาร์เจนตินาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ที่จบด้วยสกอร์ 2-1 ปารากวัยคว้าชัยชนะเหนืออาร์เจนตินาได้สำเร็จ นี่คือรายละเอียดหลังเกม แผนการเล่น ปารากวัย ใช้แผน 4-4-2 ที่เน้นการป้องกันและสวนกลับเร็ว โดยมีตัวรับในแดนกลางที่แข็งแกร่งเพื่อตัดเกมและส่งบอลขึ้นหน้าได้รวดเร็ว แนวรุกของปารากวัยอาศัยโอกาสจากการจ่ายบอลลึกเพื่อเจาะแนวรับของอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา ใช้แผน 4-3-3 เน้นการครอบครองบอลและเกมรุกต่อเนื่องผ่านความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ โดยพยายามเจาะแนวรับปารากวัยจากทั้งกองกลางและปีกทั้งสองข้าง หัวข้อข่าว การเสียประตู ประตูแรกของปารากวัย เกิดจากการที่แนวรับอาร์เจนตินาเปิดพื้นที่ในขณะบุกขึ้นสูง ปารากวัยใช้จังหวะสวนกลับเร็วด้วยบอลยาวส่งไปถึงกองหน้า ทำให้อาร์เจนตินาไม่ทันตั้งรับ และปารากวัยสามารถทำประตูได้ ประตูที่สองของปารากวัย เป็นลูกเตะมุมที่ปารากวัยสามารถใช้ประโยชน์จากการตั้งรับไม่แน่นของอาร์เจนตินา กองหลังทำพลาดในการประกบตัว ทำให้ปารากวัยสามารถโหม่งเข้าประตูได้ การปรับแผนและการตัดสินใจ หลังจากเสียประตูแรก อาร์เจนตินาปรับแผนโดยให้แดนกลางขึ้นสูงและส่งผู้เล่นเพิ่มในแนวรุกเพื่อกดดันปารากวัย อย่างไรก็ตามการปรับแผนนี้กลับทำให้แนวรับเปิดช่องว่างมากขึ้น ทำให้เสียประตูที่สองในจังหวะลูกตั้งเตะ ในครึ่งหลัง อาร์เจนตินาปรับมาใช้กองกลางตัวรับเพิ่มขึ้นเพื่อลดการเสียบอลง่าย และพยายามยิงประตูตีเสมอ แต่แนวรับปารากวัยสามารถต้านทานการบุกได้อย่างแข็งแกร่ง ข้อดีข้อเสียของทั้งสองทีม ข้อดีของปารากวัย การตั้งรับที่แข็งแกร่ง

ข่าวหลังเกม ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ระหว่าง ปารากวัย VS อาร์เจนตินา จบด้วยสกอร์ 2-1 Read More »

ข่าวหลังเกมกระชับมิตร ระหว่าง ทีมชาติไทย VS เลบานอน จบลงที่สกอร์ 0-0

Home ข่าวหลังเกมกระชับมิตร ระหว่าง ทีมชาติไทย VS เลบานอน จบลงที่สกอร์ 0-0 Facebook Twitter Linkedin ในแมตช์กระชับมิตรระหว่างทีมชาติไทยและเลบานอน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เกมจบลงที่สกอร์ 0-0 ซึ่งถือเป็นการเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยการวางแผนรับมือของทั้งสองทีม โดยแมตช์นี้ทีมชาติไทยเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 เน้นการครองบอลกลางสนามและเล่นรุกด้วยการผ่านบอลสั้น ส่วนทีมเลบานอนใช้ระบบ 4-4-2 ซึ่งให้ความสำคัญกับการตั้งรับแน่นและรอจังหวะสวนกลับเป็นหลัก แผนการเล่น ทีมชาติไทย ไทยตั้งรับด้วยการคุมพื้นที่ให้รัดกุมพร้อมบีบเกมสูงในบางจังหวะ และพยายามสร้างโอกาสด้วยการเข้าทำผ่านปีก เน้นการตัดเข้ากลางเพื่อเพิ่มโอกาสการยิงเข้าประตู โดยมีการส่งผู้เล่นตัวรุกที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วและมีทักษะในการทำลายแนวรับได้ดี เลบานอน ทีมเลบานอนใช้แผนการตั้งรับลึก เน้นการเล่นเกมรับที่เป็นระบบ โดยมีการสวนกลับรวดเร็วผ่านปีก เนื่องจากเลบานอนรู้ว่าการครองบอลเป็นสิ่งที่ทีมไทยถนัด จึงใช้แผนการรับและสวนกลับเพื่อดึงความสนใจของแนวรับไทยออกไปจากพื้นที่สำคัญ หัวข้อข่าว การเสียประตู เกมนี้ไม่มีการเสียประตู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดระบบรับที่ดีของทั้งสองทีม ทีมชาติไทยและเลบานอนต่างใช้แผนการเล่นที่เน้นความแน่นหนาในการตั้งรับ และการสกัดบอลที่มีประสิทธิภาพ การปรับแผนและการตัดสินใจ ทีมชาติไทย ในครึ่งหลัง ไทยปรับแผนการเล่นโดยเพิ่มผู้เล่นตัวรุกจากม้านั่งสำรองมา เพื่อเพิ่มความเร็วในการเข้าทำและเน้นการโจมตีจากแนวกว้าง รวมถึงการสร้างสรรค์เกมเพื่อหวังจะทำประตูให้ได้ ทีมไทยยังพยายามสร้างสรรค์โอกาสจากลูกตั้งเตะในกรณีที่การเข้าทำแบบโอเพ่นเพลย์ไม่สามารถทะลุแนวรับเลบานอนได้ เลบานอน เลบานอนยังคงใช้แผนการรับอย่างรัดกุม โดยเฉพาะในช่วงท้ายของเกมเมื่อทีมชาติไทยเริ่มบุกมากขึ้น เลบานอนปรับการยืนตำแหน่งและใช้การตั้งรับแบบเต็มพื้นที่สนาม พร้อมกับปรับจังหวะสวนกลับโดยการเพิ่มจำนวนผู้เล่นในแดนหน้า

ข่าวหลังเกมกระชับมิตร ระหว่าง ทีมชาติไทย VS เลบานอน จบลงที่สกอร์ 0-0 Read More »

ข่าวหลังเกมรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ระหว่าง ไลบีเรีย VS โตโก ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 1-0

Home ข่าวหลังเกมรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ระหว่าง ไลบีเรีย VS โตโก ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 1-0 Facebook Twitter Linkedin ในเกมรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ระหว่าง ไลบีเรีย กับ โตโก ที่จบลงด้วยสกอร์ 1-0 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ไลบีเรียสามารถเอาชนะไปได้จากการใช้แผนการเล่นที่มีการวางโครงสร้างอย่างรัดกุมและการจัดการเกมรับที่มีประสิทธิภาพ นี่คือรายละเอียดหลังเกมนี้ แผนการเล่น ไลบีเรีย ไลบีเรียใช้แผน 4-3-3 โดยเน้นการโจมตีจากด้านข้าง และอาศัยกองกลางที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อการบุกและรับ กองกลางทั้งสามคนทำหน้าที่กดดันเกมรุกของโตโกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกมรับของไลบีเรียไม่ถูกโจมตีหนักจากกลางสนาม ส่วนกองหน้าใช้ความเร็วในการบุกทะลุแนวรับโตโก โตโก โตโกลงเล่นด้วยแผน 4-4-2 เพื่อเน้นการเล่นบอลสั้นและการเข้าทำเกมจากแดนกลาง กองหน้าสองคนเน้นการกดดันแนวรับของไลบีเรีย และพยายามเปิดเกมรุกจากริมเส้น แต่ยังขาดความแม่นยำในการจบสกอร์ในหลายครั้ง หัวข้อข่าว การเสียประตู ไลบีเรียทำประตูได้จากจังหวะเตะมุมที่ทีมรับของโตโกไม่สามารถจัดการบอลลอยได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลให้กองหน้าของไลบีเรียสามารถหาช่องและส่งบอลเข้าตาข่ายได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง การขาดสมาธิและการจัดตำแหน่งที่ไม่ดีของแนวรับโตโกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเสียประตูนี้ การปรับแผนและการตัดสินใจ หลังจากเสียประตู

ข่าวหลังเกมรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ระหว่าง ไลบีเรีย VS โตโก ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 1-0 Read More »

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรระหว่างทีมชาติบังคลาเทศ VS มัลดีฟส์ ซึ่งจบด้วยสกอร์ 0-1

Home ข่าวหลังเกมกระชับมิตรระหว่างทีมชาติบังคลาเทศ VS มัลดีฟส์ ซึ่งจบด้วยสกอร์ 0-1 Facebook Twitter Linkedin เกมกระชับมิตรระหว่างทีมชาติบังคลาเทศและมัลดีฟส์ ซึ่งจบด้วยสกอร์ 0-1 โดยมัลดีฟส์เป็นฝ่ายชนะ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เกมนี้มีความน่าสนใจในหลายด้าน ทั้งแผนการเล่น การเสียประตู รวมถึงการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น และจุดเด่นจุดด้อยของทั้งสองทีม ซึ่งส่งผลให้เกมนี้มีเนื้อหาสาระที่ควรศึกษาอย่างละเอียด แผนการเล่น ทีมชาติบังคลาเทศ เริ่มต้นเกมด้วยระบบ 4-4-2 ซึ่งเน้นการควบคุมพื้นที่กลางสนามเพื่อป้องกันการทำเกมของมัลดีฟส์ โดยมีมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนที่ทำหน้าที่ทั้งในเกมรุกและเกมรับ ในขณะเดียวกัน กองหลังของบังคลาเทศมักเน้นการป้องกันเป็นแพ็คแถวและเล่นแบบรัดกุมเพื่อไม่ให้มัลดีฟส์เจาะผ่านได้ง่าย ทีมชาติมัลดีฟส์ ใช้ระบบ 4-3-3 ซึ่งเป็นแผนที่เน้นการครองบอลและโจมตีอย่างรวดเร็ว มิดฟิลด์สามคนมีการเชื่อมต่อกันได้ดีทำให้มัลดีฟส์สามารถสร้างโอกาสได้หลากหลายจากพื้นที่กองกลาง ขณะเดียวกันการใช้ผู้เล่นริมเส้นในระบบนี้ยังช่วยกระจายการเล่นไปทางกว้างเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับกองหน้ากลางได้บุกเข้าไปโจมตี หัวข้อข่าว การเสียประตู บังคลาเทศเสียประตูเดียวในนาทีที่ 65 เมื่อมัลดีฟส์ใช้การโจมตีเร็วจากทางริมเส้น กองหน้าของมัลดีฟส์วิ่งตัดเข้าด้านในและรับบอลยาวจากผู้เล่นริมเส้นซ้าย สามารถดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูบังคลาเทศได้สำเร็จและยิงเข้าประตู ทำให้มัลดีฟส์ขึ้นนำ 1-0 ซึ่งกลายเป็นประตูตัดสินเกมในที่สุด จุดเสียของบังคลาเทศในจังหวะนี้มาจากการป้องกันที่ไม่ทันในจังหวะการโจมตีเร็ว และการขาดการสื่อสารระหว่างกองหลังและผู้รักษาประตู การปรับแผนและการตัดสินใจ หลังจากเสียประตู บังคลาเทศพยายามปรับเปลี่ยนแผนการเล่น โดยส่งผู้เล่นตัวรุกลงสนามมากขึ้น

ข่าวหลังเกมกระชับมิตรระหว่างทีมชาติบังคลาเทศ VS มัลดีฟส์ ซึ่งจบด้วยสกอร์ 0-1 Read More »

ข่าวหลังเกม กระชับมิตร ทีมชาติทาจิกิสถาน VS เนปาล จบลงด้วยสกอร์ 4-0

Home ข่าวหลังเกม กระชับมิตร ทีมชาติทาจิกิสถาน VS เนปาล จบลงด้วยสกอร์ 4-0 Facebook Twitter Linkedin ในเกมกระชับมิตรระหว่างทีมชาติทาจิกิสถานและเนปาลที่จบลงด้วยสกอร์ 4-0 ทาจิกิสถานได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าทั้งในด้านทักษะและการเล่นเป็นทีมอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้พวกเขาครองเกมได้อย่างมั่นคงและบุกเอาชนะเนปาลไปด้วยสกอร์ขาดลอย แผนการเล่น ทาจิกิสถานใช้แผน 4-3-3 ซึ่งเน้นการสร้างเกมจากด้านหลังและโจมตีอย่างรวดเร็วไปยังแดนหน้า พวกเขาใช้การจ่ายบอลสั้นและการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสในการทำประตู โดยมิดฟิลด์กลางที่มีบทบาทในการควบคุมจังหวะของเกมและเป็นจุดเชื่อมระหว่างการป้องกันและการบุก ผู้เล่นกองหน้าทั้งสามคนมีการสลับตำแหน่งอย่างยืดหยุ่น ทำให้แนวรับของเนปาลเกิดความสับสนในการป้องกัน เนปาลเลือกใช้แผน 5-4-1 เพื่อเน้นการป้องกันและพยายามหาจังหวะสวนกลับ แต่พบกับความยากลำบากในการรับมือกับการบุกอย่างต่อเนื่องของทาจิกิสถาน หัวข้อข่าว การทำประตู ทาจิกิสถานได้ประตูจากการประสานงานอย่างดีของกองหน้าและมิดฟิลด์ ประตูแรกมาจากการต่อบอลรวดเร็วที่เปิดช่องให้กองหน้าหลุดเข้าไปทำประตู การเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลของกองหน้าทำให้แนวรับเนปาลต้องสับสนและเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นทาจิกิสถานคนอื่นเข้าสู่พื้นที่ทำประตู ประตูที่สองและสามมาจากการใช้ลูกตั้งเตะที่มีประสิทธิภาพในการส่งบอลเข้ากรอบเขตโทษเพื่อกดดันแนวรับฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ประตูสุดท้ายมาจากการยิงไกลที่แม่นยำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในการเข้าทำของทาจิกิสถาน การปรับแผนและการตัดสินใจ ในครึ่งหลัง แม้ว่าสกอร์จะนำอยู่แล้ว แต่ทาจิกิสถานยังคงเล่นเกมบุกและพยายามควบคุมเกมเพื่อรักษาความได้เปรียบ ทางโค้ชของเนปาลมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นและปรับแผนเป็น 4-4-2 เพื่อพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนกลางและเพิ่มโอกาสในการครองบอลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแผนนี้ยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ เนื่องจากผู้เล่นของทาจิกิสถานยังคงเล่นเกมเพรสซิ่งอย่างหนักทำให้เนปาลไม่สามารถสร้างโอกาสทำประตูได้ ข้อดีข้อเสีย ข้อดีของทาจิกิสถาน การเพรสซิ่งและการครองบอลที่ดี ช่วยให้พวกเขาควบคุมเกมได้อย่างต่อเนื่อง การประสานงานระหว่างผู้เล่นกองหน้าและมิดฟิลด์ที่ราบรื่นและแม่นยำ การโจมตีที่หลากหลาย ทั้งการใช้การผ่านบอลเร็วและลูกตั้งเตะ ข้อเสียของเนปาล การป้องกันที่มีความผิดพลาดและไม่สามารถรับมือกับการบุกของทาจิกิสถานได้ ขาดความสามารถในการครองบอลและสร้างโอกาสทำประตู

ข่าวหลังเกม กระชับมิตร ทีมชาติทาจิกิสถาน VS เนปาล จบลงด้วยสกอร์ 4-0 Read More »

ข่าวหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (หญิง) Bayern München Women VS Vålerenga Women ที่จบด้วยสกอร์ 3-0

Home ข่าวหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (หญิง) Bayern München Women VS Vålerenga Women ที่จบด้วยสกอร์ 3-0 Facebook Twitter Linkedin ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (หญิง) ระหว่าง Bayern München Women กับ Vålerenga Women ที่จบด้วยสกอร์ 3-0 ทาง Bayern München Women โชว์ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและเน้นการบุก ทำให้คว้าชัยไปได้อย่างสวยงาม เรามาวิเคราะห์รายละเอียดที่สำคัญของเกมนี้กัน แผนการเล่น Bayern München Women ใช้ระบบ 4-3-3 ที่เน้นเกมบุก โดยมีกองหน้าสามคนทำเกมรุกและกองกลางสามคนเชื่อมต่อระหว่างเกมรับกับเกมรุก กองกลางมีบทบาทสำคัญในการกดดันคู่แข่งและสร้างโอกาสให้ทีม ส่วน Vålerenga Women ใช้แผน 4-4-2 ที่เน้นความสมดุลในแนวรับและพยายามเน้นการตั้งรับอย่างรัดกุมเพื่อต้านทานการบุกของ Bayern แต่แผนการตั้งรับของ Vålerenga Women ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของ

ข่าวหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (หญิง) Bayern München Women VS Vålerenga Women ที่จบด้วยสกอร์ 3-0 Read More »

Scroll to Top