ประวัติโค้ชจูเลียน นาเกิลส์มันน์ (Julian Nagelsmann)

Home
บทความ
ประวัติโค้ชจูเลียน นาเกิลส์มันน์ (Julian Nagelsmann)

ประวัติโค้ชจูเลียน นาเกิลส์มันน์ (Julian Nagelsmann)

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม จูเลียน นาเกิลส์มันน์ (Julian Nagelsmann)
วันเกิด 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1987
สถานที่เกิด แลนด์สบวร์ก อัม เลค, แคว้นบาวาเรีย, ประเทศเยอรมนี
ส่วนสูง 1.90 เมตร (6 ฟุต 3 นิ้ว)
ตำแหน่ง (สมัยเป็นนักเตะ) กองหลัง (ก่อนเลิกเล่นเนื่องจากบาดเจ็บ)
สโมสรปัจจุบัน ทีมชาติเยอรมนี – หัวหน้าโค้ช

ชีวิตก่อนเข้าวงการฟุตบอล

จูเลียน นาเกิลส์มันน์ เติบโตในบาวาเรียและเริ่มต้นอาชีพการเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหลังให้กับทีมเยาวชนของ 1860 มิวนิก และเอาก์สบวร์ก อย่างไรก็ตาม เขาต้องยุติอาชีพการเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บหัวเข่าเรื้อรัง หลังจากเลิกเล่น นาเกิลส์มันน์มุ่งมั่นที่จะเป็นโค้ช และศึกษาการบริหารกีฬา รวมถึงการฝึกอบรมฟุตบอล

อาชีพการเป็นโค้ช

จูเลียน นาเกิลส์มันน์ เริ่มต้นอาชีพโค้ชในฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมเยาวชนของเอาก์สบวร์ก โดยทำงานร่วมกับโธมัส ทูเคิล ต่อมาเขาย้ายไปฮอฟเฟนไฮม์ในปี 2010 และทำหน้าที่โค้ชทีมเยาวชนก่อนจะถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ในปี 2016 ขณะอายุเพียง 28 ปี ซึ่งทำให้เขาเป็นโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกา

ทีมที่เคยคุม

ฮอฟเฟนไฮม์ (2016–2019)

นาเกิลส์มันน์เข้ามาช่วยทีมหนีตกชั้นในฤดูกาลแรก และพาทีมจบอันดับ 4 ในฤดูกาลถัดมา พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

แอร์เบ ไลป์ซิก (2019–2021)

เขาพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2019–20 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

บาเยิร์น มิวนิก (2021–2023)

พาบาเยิร์นคว้าแชมป์บุนเดสลีกา (2021–22) และสร้างสถิติการเล่นเกมรุกที่น่าประทับใจ

ทีมชาติเยอรมนี (2023–ปัจจุบัน)

นาเกิลส์มันน์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโค้ชของทีมชาติเยอรมนีในปี 2023 โดยมีภารกิจสำคัญคือพาทีมทำผลงานได้ดีในศึกยูโร 2024 ที่ประเทศตัวเองเป็นเจ้าภาพ

เกียรติประวัติของเขา

บาเยิร์น มิวนิก

แชมป์บุนเดสลีกา 2021–22
แชมป์ DFL-Supercup 2021, 2022

แอร์เบ ไลป์ซิก

รองแชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2020–2021

สรุป

จูเลียน นาเกิลส์มันน์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโค้ชหนุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลก ด้วยแนวคิดการเล่นที่ทันสมัย การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ และความสามารถในการพัฒนานักเตะเยาวชน ความสำเร็จของเขาในฐานะโค้ชวัยหนุ่มสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ที่หาได้ยากในวงการฟุตบอลระดับสูง ปัจจุบันเขามีภารกิจสำคัญในการฟื้นฟูทีมชาติเยอรมนีให้กลับมาเป็นทีมชั้นนำของโลกอีกครั้ง